Header Ads

SM ยิ้มรับปี 66 รุกขยายสินเชื่อ ชูเจ้าใหญ่แห่งบูรพารับโอกาส EEC บอร์ดไฟเขียวปันผลผู้ถือหุ้นทันทีหลังเข้าตลท. 0.04 บาท/หุ้น


บมจ. สตาร์ มันนี่ หรือ SM หุ้นสินเชื่อครบวงจร และจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า เจ้าถิ่นรายใหญ่แห่งภาคตะวันออก ในปี 2566 ตั้งธงธุรกิจพอร์ตสินเชื่อเติบโต รับจังหวะเศรษฐกิจโดยรวมฟื้นตัว บวกปัจจัยหนุนจาก EEC พร้อมคุมเข้ม NPL อย่างรัดกุม จับตา! แผนต่อยอดธุรกิจร่วมกับพันธมิตร หนุนการขยายฐานลูกค้า และช่องทางการเติบโตใหม่ๆ ขณะที่ ล่าสุดประกาศผลงานปี 2565 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,399.44 ลบ. กำไรสุทธิอยู่ที่ 81.15 ลบ. จ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.04 บาท/หุ้น กำหนดจ่ายวันที่ 26 พฤษภาคมนี้

นายชูศักดิ์ วิวัฒน์วงศ์เกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์ มันนี่ จำกัด (มหาชน) หรือ SM เปิดเผยว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2566 คาดจะเติบโตจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัว และภาครัฐมีมาตรการต่างๆ ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลดีต่อการใช้จ่ายภายในประเทศทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคตะวันออกเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ด้านการลงทุนที่สำคัญ สนับสนุนกำลังซื้อในโซนดังกล่าวคึกคักในทิศทางเดียวกัน

ขณะที่ทิศทางธุรกิจการให้บริการสินเชื่อรายย่อยแบบมีหลักประกันประเภททะเบียนรถจักรยานยนต์, รถยนต์ รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ รถใช้งานเพื่อการเกษตร รวมถึงที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มีดีมานด์เข้ามารับภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศกลับมาคึกคักหลังยุคโควิดผ่อนคลาย วางเป้าปีนี้เดินหน้าขยายพอร์ตสินเชื่ออย่างรัดกุม จากสิ้นปี 2565 พอร์ตสินเชื่ออยู่ที่ 2,300 ล้านบาท เดินหน้าขยายพอร์ตสินเชื่อ โดยเน้นการบริหารคุณภาพสินเชื่อย่างรัดกุม

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน (IPO) ในช่วงปลายปี 2565 ที่ผ่านมา จะสนับสนุนการเติบโตตามกลยุทธ์ที่วางไว้ พร้อมเดินหน้าใน Core Business ที่บริษัทฯมีความชำนาญอยู่แล้ว ด้วยจุดแข็งของ SM มีกลุ่มลูกค้าภาคตะวันออกซึ่งเป็นฐานที่มั่นสำคัญที่มีศักยภาพสูง เนื่องจากการเติบโตและการขยายของ EEC ทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ทั้งภาคครัวเรือน ภาคอุตสาหกรรม และภาคการท่องเที่ยว เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ SM สามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน

“ในช่วงต้นปี 2566 นี้ SM เปิดสาขาใหม่เพิ่มจำนวน 4 สาขา โดยมุ่งเน้นทำเลที่มีศักยภาพพร้อมทั้งในปีนี้เราจะมุ่งเน้นช่องทางการขายอื่น ๆ ที่ต้นทุนดำเนินการต่ำให้มากขึ้น จาก ณ สิ้นปี 2565 บริษัทฯ มีสาขาอยู่ที่ 94 สาขา ครอบคลุม 7 จังหวัดในโซนภาคตะวันออกของประเทศไทย รวมถึง การจับมือพันธมิตรเข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง เพื่อขยายฐานลูกค้า รองรับกำลังซื้อที่ฟื้นตัว ซึ่งคาดจะเห็นความร่วมมือใหม่ๆ เกิดขึ้นในปีนี้ รองรับแผนการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อให้มากขึ้น เพราะสินเชื่อเช่าซื้อมีผลตอบแทนที่สูง จะทำให้ Loan Yield และ Net Interest Margin อยู่ในระดับที่เติบโตค่อนข้างดี

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2565 SM มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,399.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 162.02 ล้านบาท หรือเติบโต 13.09% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้หลักเพิ่มขึ้นจากรายได้การขายสินค้าและรายได้ดอกเบี้ยสัญญาเช่าซื้อซึ่งเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อ

ขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมส่วนใหญ่ที่เพิ่มขึ้นมาจากการรับรู้ค่าใช้จ่ายโดยใช้หุ้นเป็นเกณฑ์ (Share based payment) ในปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทมีการรับรู้ค่าใช้จ่ายจากรายการผลประโยชน์ที่จ่ายโดยใช้หุ้นเป็นเกณฑ์ จากที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯ ได้ทำสัญญาขายหุ้นสามัญของบริษัทฯ จำนวน 64 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท กับบริษัท บัวหลวงเวนเจอร์ส จำกัด จำนวน 19.58 ล้านบาท ซึ่งรายการค่าใช้จ่ายดังกล่าวไม่ได้เป็นค่าใช้จ่ายจากการดำเนินธุรกิจปกติของบริษัทฯ และเป็นรายการพิเศษที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ไม่ได้มีผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรหรือการดำเนินธุรกิจปกติของบริษัท โดยทำให้ในงวดปี 2565 SM มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 81.15 ล้านบาท แต่หากไม่รวมค่าใช้จ่าย Share based ที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวดังกล่าว จะสนับสนุนให้ SM มีกำไรจากการดำเนินปกติอยู่ที่ 100.7 ลบ. ใกล้เคียงปี 2564 กำไรสุทธิอยู่ที่ 102.9 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดสาขาใหม่ 9 สาขาในปี 2565

และเพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ยังคงเชื่อมั่น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติเสนอผู้ถือหุ้นจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.04 บาท/หุ้น คิดเป็นเงินรวม 44 ล้านบาท โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 3 พฤษภาคม 2566 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 26 พฤษภาคม 2566ซึ่งนับเป็นการจ่ายปันผลทันทีหลังเข้าตลาดหลักทรัพย์

ปัจจุบัน SM ประกอบธุรกิจหลัก 2 ประเภท คือ จำหน่ายสินค้า เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ เช่น โทรทัศน์ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ ตู้แช่ รถจักรยานยนต์ และอุปกรณ์อื่น ๆ ทั้งขายเงินสดและผ่อนชำระ จัดทำเป็นสัญญาเช่าซื้อ โดยจำหน่ายสินค้าผ่าน “ร้านสตาร์มันนี่” ที่ถือเป็นผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ในภาคตะวันออก รวมถึงจำหน่ายผ่าน Platform E-Marketplace

และปล่อยสินเชื่อ ได้แก่ สินเชื่อส่วนบุคคลที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน, สินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่ใช่สินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน และสินเชื่อที่มีหลักประกันอื่น ๆ เช่น ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง นอกจากนี้บริษัทยังให้บริการด้านอื่นที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เช่น นายหน้าประกันวินาศภัย รวมถึงบริการซื้อประกันรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ) และต่อภาษีประจำปีรถยนต์ เป็นต้น

ที่มา: ไออาร์ พลัส

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.