UAC ยกระดับองค์กรสู่ความความยั่งยืนตั้งเป้ารายได้โต 15% ลุยลงทุน ปิโตรเลียม–โรงไฟฟ้าชุมชน–โรงงานผลิต RDF
บมจ. ยูเอซี โกลบอล (UAC) ลุยยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืน หนุนเป้าการเติบโตของรายได้ปี2566 โต 15% ผ่านแผนขับเคลื่อนการลงทุนธุรกิจพลังงานสะอาด ปิโตรเลียม–โรงไฟฟ้าชุมชน–โรงงานผลิต RDF ล่าสุดผนึก บริษัท เมฆา วี จำกัด (Mekha V) ต่อยอดธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ ผ่านแพลตฟอร์ม ReAcc
นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) (UAC) เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจในปี 2566 ว่า บริษัทฯยังคงเดินหน้าขยายการลงทุน ในธุรกิจพลังงานสะอาด-พลังงานทดแทน ควบคู่ไปกับการศึกษาการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงการร่วมทุนพันธมิตรในระดับชั้นนำเพื่อยกระดับองค์กร สู่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้บริษัทฯ เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต โดยกลยุทธ์ดังกล่าวจะผลักดันให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ เติบโตตามเป้ารายได้ที่วางไว้ในปีนี้เพิ่มขึ้น 15% ควบคู่กับการรักษาระดับการเติบโตของอัตรากำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) มากกว่า 20% ของรายได้ยอดขายรวม
“การเติบโตของ UAC จะผ่านการลงทุนโครงการต่าง ๆ ดังนี้ โครงการสำรวจขุดเจาะปิโตรเลียมจากแหล่งผลิตปิโตรเลียมหมายเลข L11/43 และ L10/43 , โครงการโรงไฟฟ้าภูผาม่าน (PPM) 3 เมกะวัตต์ จะขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในไตรมาส 2/2566 รวมทั้งโครงการ บริษัท เวียงจันทน์บริหารขี้เหยื้อ จำกัด (VWM) ที่นครเวียงจันทน์ สปป.ลาว ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างและนำเข้าเครื่องจักร ซึ่งคาดว่าสามารถนำเข้ามาภายในเดือนมีนาคม 2566 ขณะที่ก่อสร้างโรงงานั้นล่าสุดคืบหน้าไปแล้วเสร็จกว่า 90%”
ส่วนโครงการ EECi EV Charger Station โดย UAC Energy ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้เช่าพื้นที่จอดรถของสำนักงานใหญ่เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EECi เพื่อติดตั้งและให้บริการ EV Charging Station สถานี SUPERFAST by UAC ร่วมกับสถานีพันธมิตร EleX by EGAT ภายในวังจันทร์วัลเลย์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการสถานีชาร์จประจุรถยนต์ไฟฟ้า
ขณะที่การยื่นประมูลโรงไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in-Tariff (FiT) ปี 2565-2573 นั้น บริษัทฯ ได้ผ่านคุณสมบัติแล้ว 6 โครงการ ซึ่งเป็นการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ รวม 14.25 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ UAC ได้มีการร่วมมือกับบริษัท เมฆา วี จำกัด (Mekha V) เพื่อต่อยอดธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ภายใต้ แพลตฟอร์ม ReAccซึ่งแพลตฟอร์ม ดังกล่าวจะเป็นการให้บริการซื้อขายด้านพลังงานสะอาด แบบครบวงจร (one-stop service) รวมถึงให้คำปรึกษาด้านการซื้อ–ขายใบรับรองสิทธิ ในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนผลประกอบการงวดปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 1,670.87 ล้านบาท กำไรส่วนที่เป็นของบริษัท 78.86 ล้านบาท โดยได้รับเงินปันผลระหว่างกาลปี 2565 จากบริษัทย่อย UAPC จำนวน 72 ล้านบาท และยังคงได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทร่วมอย่างต่อเนื่องที่ 85.41 ล้านบาท นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯพิจารณาอนุมัติจ่ายปันผลงวดปี 2565 (ม.ค.-ธ.ค.65) ในอัตราหุ้นละ 0.12 บาท รวมเป็นเงินปันผล 80.11 ล้านบาท โดยกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 19 เมษายนนี้
ที่มา: มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
ไม่มีความคิดเห็น