Header Ads

สุวัจน์ โปรโมเตอร์ ชพก. ดัน กรณ์-อรรถวิทย์ คุมทัพสู้ศึกเลือกตั้ง กทม. 33 เขต มั่นใจปักธงได้แน่


พรรคชาติพัฒนากล้า ยกสนามมวยขึ้นโรงแรมเปิดตัว 33 ผู้สมัคร ส.ส. กทม. สุวัจน์ ลั่น เลือกตั้งครั้งนี้ ต้องปักธงเมืองหลวงให้ได้ ยกอดีตเคยได้ปวีณา ส.ส. กทม. หนึ่งเดียวของพรรค ขณะ กรณ์-อรรถวิทย์ สวมปลายนวม ประกาศพร้อมชกทุกปัญหา ภายใต้ตรีม ชาติพัฒนากล้าไฟท์ ชนกับปัญหาของคนกรุงเทพฯ

โดยเริ่มต้นการปราศรัยด้วยโปรโมเตอร์ใหญ่ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า ที่เปิดตัวยกการ์ดขึ้นชก ว่าเป็นบรรยากาศแบบมวย Thai Fight พรรคชาติพัฒนากล้าได้เปิดตัวไปแล้วครั้งแรกที่โคราช วันนั้นเป็นการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. โคราช วันนี้มาที่กรุงเทพมหานครถือว่าเป็นการเปิดชาติพัฒนากล้าอีกครั้งหนึ่ง

เราเตรียมที่จะไฟท์กับปัญหาต่าง ๆ ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ปัญหาเรื่องงาน ปัญหาเรื่องเงิน ปัญหาเรื่องสินเชื่อ ปัญหาเรื่องน้ํามันแพง ไฟฟ้าแพง ปัญหาเรื่องนักท่องเที่ยว ปัญหาเรื่องฝุ่น ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ของคนกรุงเทพ วันนี้ 33 ชีวิตของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคชาติพัฒนากล้าจะมาอาสาตัวกับคนกรุงเทพ


“เราเคยปักธงที่กรุงเทพ สมัยก่อนเคยมี ส.ส. กรุงเทพหนึ่งท่าน คือ คุณปวีณา หงส์สกุล วันนี้ชาติพัฒนากล้าจะต้องมาปักธงที่กรุงเทพอีกครั้ง มาทํางานรับใช้ชาวกรุงเทพฯ มาพาพวกเราทุกคนฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศไปให้ได้” นายสุวัจน์ กล่าวและย้ำว่า

“วันนี้ มั่นใจท่านหัวหน้าพรรค ท่านรองหัวพรรคคัดเลือกผู้สมัครที่มีคุณภาพเหมาะสมกับนโยบายของพรรคที่เกี่ยวข้องกับคนกรุงเทพที่ได้รับผลกระทบหลาย ๆ เรื่องและตอบโจทย์ โดยเฉพาะนโยบายที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ การลงทุน การท่องเที่ยว และเรื่องสิ่งแวดล้อม เรามั่นใจว่าเที่ยวนี้พรรคชาติพัฒนากล้าจะได้มีโอกาสรับใช้ชาวกรุงเทพ”


ด้าน นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค ขึ้นเวที พร้อมกับนายอรรถวิทย์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค คุมพื้นที่หาเสียง กทม. ได้ขึ้นสังเวียน มาพร้อมสวมปลายนวม พร้อมยืนยัน กล้าชกจริง ขอสู้กับปัญหา ให้กับพี่น้องประชาชน ทั้งเรื่องของแพง ภาระหนี้สิน ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของเรา ที่ต้องอาศัยความกล้า ในการเข้าไปรื้อระบบโครงสร้างปัญหา และจะผลักดัน ยุทธศาสตร์ผลักดันรายได้ 5 ล้านล้านบาท ให้กับประเทศ


นายอรรถวิทย์ กล่าวว่าตนซ้อมอยู่นานหลายปีกว่าจะยุบสภา ซึ่งเราตั้งใจจะชนกับทุนพลังผูกขาด ก่อนที่จะประกาศเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. ของพรรค ทั้ง 33 เขต บนสังเวียนมวย แบ่งเป็นผู้สมัคร จากฝากผู้บริหาร นักธุรกิจ สตาร์ทอัพ อาจารย์ และนักข่าว เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.